ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย |
ถ้ากล่าวถึงธรรม ก็หมายความถึงสิ่งที่มีจริง ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น นี่คือสิ่งใหม่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยฟังธรรม
เพราะว่าเราเคยได้ยินเศษเล็กเศษน้อยของพระธรรม เช่น จริยธรรม หรือศีลธรรมเป็นต้น แต่จริง ๆ แล้ว ก่อนจะเข้าใจพระธรรมได้ว่า ด้วยเหตุใดพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญพระบารมีนานแสนนาน ถึง ๔ อสงไขยแสนกัปที่จะรู้พระธรรม เพราะฉะนั้น พระธรรมที่ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษาอยู่ที่ไหน และเดี๋ยวนี้มีไหม คนยุคนี้สามารถได้รับฟังและเข้าใจได้หรือเปล่า นี่เป็นความต่างกันของคนในยุคโน้นกับคนในยุคนี้
ถ้าเคยไปวัดฟังพระธรรม ก็จะรู้ว่า ในอดีตกาลสมัยพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระอรหันต์มากมาย พระอรหันต์คือใคร ก็ไม่ใช่เพียงแต่ได้ยิน และได้ยินอะไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าได้ยินแล้วต้องการเข้าใจ ก็ฟังพระธรรมจนกระทั่งสามารถค่อย ๆ เข้าใจคำที่ได้ยินทีละเล็กทีละน้อย เช่น ถ้าถามว่าพระอรหันต์คือใคร พระอรหันต์คือ ผู้ดับกิเลสหมด ไม่มีกิเลสใด ๆ เกิดขึ้นได้เลย
เพราะฉะนั้น พระอรหันต์จึงเป็นผู้ควรเคารพอย่างสูง เพราะว่าการดับกิเลสเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย ถ้ามีความเข้าใจถูกต้องว่า เมื่อเกิดมาทุกคนก็มีกิเลส และอยู่ไปวัน ๆ ทุกวันก็เต็มไปด้วยกิเลส เพราะฉะนั้น ถ้าใครสามารถดับกิเลสได้ ผู้นั้นควรแก่การเคารพอย่างยิ่ง สมัยนี้มีไหมพระอรหันต์ ? แล้วจะรู้ได้อย่างไร ? ใครเป็นพระอรหันต์และใครไม่เป็นพระอรหันต์ ?
ถ้าขาดความรู้ เราก็จะถูกหลอก เพราะเหตุว่า ถ้าใครบอกว่า คนโน้นคนนี้เป็นพระอรหันต์ เราก็อาจจะเชื่อ แต่ตามความเป็นจริง แต้งเป็นความรู้ของเราเอง จึงจะสามารถเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามความเป็นจริง
ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีคำว่า มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เราใช้กันบ่อย ๆ
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ มีใครเป็นที่พึ่ง ? มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ มีพระธรรมที่ทรงแสดงแล้ว ที่ทำให้ทุกคนสามารถหมดจดจากกิเลสได้เป็นที่พึ่ง เพราะถ้าไม่มีพระธรรม ใครก็หมดกิเลสไม่ได้ และก็มีพระสังฆรัตน คือ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ถึงพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ไม่ใช่ถึงผู้ที่ไม่ใช่อริยะแล้วก็เป็นที่พึ่งได้ แต่ต้องเป็นผู้สามารถเข้าใจธรรม จนสามารถช่วยคนอื่นให้เข้าใจได้ ในฐานะของสาวกด้วย ไม่ใช่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนเคยพูดคำนี้ไหม ? ๓ ประโยค พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ แต่ขอเป็นที่พึ่งอย่างไร เพราะเหตุว่า แม้คำว่า "ที่พึ่ง" ก็ไม่รู้ว่า จะพึ่งพระรัตนตรัย พึ่งพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไร เพราะว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ไม่มีอีกเลยที่จะไปเฝ้า สักการะหรือจะขอเป็นที่พึ่ง แต่ยังพึ่งได้อยู่ เพราะเหตุว่าเป็นพระบรมศาสดาที่ทรงแสดงพระธรรมให้คนอื่นสามารถรู้สามารถเข้าใจได้
เพราะฉะนั้น การที่จะพึ่งพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็คือ พระองค์เป็นผู้มีพระปัญญสูงสุดในสากลจักรวาล ไม่มีผู้ใดเปรียบเสมอพระองค์ได้เลย และทรงแสดงพระธรรมให้คนอื่นเข้าใจได้ เพราะฉะนั้น จะพึ่งพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าวันนี้ จะพึ่งอย่างไร หรือจะไม่พึ่ง หรือจะเพียงกล่าวว่า "พึ่ง" แต่ไม่รู้ว่าจะพึ่งอย่างไร
เพราะฉะนั้น เพียงแค่คำว่า "ธรรม" จะพึ่งธรรม จะพึ่งอย่างไร กำลังจะพึ่งพระธรรมก็เมื่อได้ฟังและเข้าใจ จึงจะพึ่งได้ ถ้าไม่เข้าใจ ไม่มีหนทางจะพึ่งได้เลย
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านและขออุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์
.....................................................